ดูบทความ
ดูบทความ7 ขั้นตอนการดูแลผิวหน้าไม่ให้หมองคล้ำ
7 ขั้นตอนการดูแลผิวหน้าไม่ให้หมองคล้ำ
หลายครั้งเราอาจเคยโดนทักว่า ไปทำอะไรมาทำไมหน้าหมองคล้ำจัง หรือบางคนอาจทักหนักกว่านั้นว่า นี่เธอทำไมหน้าหมองคล้ำเหมือนคนโดนของเลยล่ะ เวลาโดนทักกันแบบนี้ก็ถึงกับเสียเซลฟ์ขาดความมั่นใจกันไปเลยทีเดียว ต้องแอบไปส่องกระจกดูใบหน้าว่า หน้าตาตัวเองเป็นอย่างไร พอได้ส่องกระจกดูจริง ๆ จัง ๆ ตัวเราเองอาจรู้สึกตกใจว่า ทำไมใบหน้าถึงหมองคล้ำขนาดนี้ ต้องรีบหาวิธีบำรุงเพื่อให้ใบหน้ากลับมาสดใสเหมือนเดิม
วันนี้เราก็มีวิธี 7 ขั้นตอนการดูแลผิวหน้า ทำให้ใบหน้าลดความหมองคล้ำ มีความกระจ่างใส ิผิวเนียนนุ่ม และดูมีสุขภาพดีเป็นธรรมชาติมาฝากกันด้วยค่ะ เราไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเราต้องทำอะไรกันบ้าง
ขั้นตอนที่ 1ทำความสะอาดผิวหน้า
การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญ โดยก่อนล้างหน้า ควรเช็ดเครื่องสำอางให้ออกหมดก่อนด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผิวหน้า เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วก็ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง หลังล้างหน้าเสร็จ ก็ใช้โทนเนอร์เช็ดอีกครั้ง เป็นสิ่งสุดท้ายสำหรับการทำความสะอาดหน้า เพราะโทนเนอร์จะช่วยกระชับรูขุมขขนค่ะ และควรใช้โทนเนอร์ชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอล์นะคะ เพราะจะทำให้ผิวแห้งตึงเกินไปค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 ผลัดเซลล์ผิวเก่าออก
ทำไมต้องให้เซลล์ผิวเก่าถูกขจัดออกไป เพราะสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ก็เนื่องมาจากเซลล์ผิวเก่าไม่หลุดลอกออกไปหรือหลุดลอกช้า ทำให้เกิดการหมักหมมของเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพเป็นจำนวนมากค่ะ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวหมองคล้ำแล้วยังทำให้ผิวหยาบกร้านด้วย และส่งผลให้การดูดซึมของครีมบำรุงลงสู่ชั้นผิวหนังได้น้อยลง ดังนั้นจึงควรหมั่นสครับหน้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าหลุดลอกออกไป และจะได้เซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ ซึ่งจะทำให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้นค่ะ
ขั้นตอนที่ 3 ประคบผิวหน้าด้วยไอน้ำและทาครีมบำรุง
วิธีง่าย ๆ ในการประคบผิวหน้าด้วยไอน้ำ คือ เตรียมน้ำอุ่นไว้ แล้วนำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นและบิดหมาด ๆ เสร็จแล้วนำมาประคบบนผิวหน้า เพื่อช่วยให้รูขุมขนเปิดออกและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนใบหน้า หลังจากประคบหน้าแล้วก็ทาครีมบำรุงต่าง ๆ ได้เลย เพราะเมื่อรูขุมขุนเปิด การทาครีมบำรุงเหล่านี้ก็จะสามารถลงไปถึงชั้นที่ลึกที่สุดได้ สำหรับคนหน้ามันพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของน้ำมันค่ะ เพราะจะลงไปอุดตันในรูขุมขนได้ และยังทำให้หน้ามันยิ่งขึ้นด้วยค่ะ หรือในขณะที่ทาครีมอาจจะนวดหน้าเบา ๆ ไปพร้อมกันเลยก็ได้ค่ะ ก็จะยิ่งช่วยให้การทาครีมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นค่ะ
ขั้นตอนที่ 4 ทาครีมกันแดด
ขั้นตอนนี้เป็นอีกขั้นตอนสำคัญ เพราะในชีวิตประจำวันเราต้องเผชิญกับแสงแดด และแสงจากจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งส่งผลต่อผิวหน้าของเรา ฉะนั้นจึงควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง เผื่อป้องกันจากแสงเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้เกิดฝ้า กระ ริ้วรอยต่าง ๆ ขึ้นมาได้ค่ะ
ขั้นตอนที่ 5 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
เราควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกาย และช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดด้วยค่ะ ซึ่งจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รู้สึกสดชื่นได้ทุกวันค่ะ
ขั้นตอนที่ 6 ดื่มน้ำสะอาด
การดื่มน้ำที่สะอาดในจำนวนที่เพียงพอต่อร่างกายทุกวัน จะช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดุล และยังส่งผลต่อผิวอีกด้วยค่ะ ซึ่งปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันโดยเฉลี่ย คือ 6 – 8 แก้ว ค่ะ
ขั้นตอนที่ 7 นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง และนอนในช่วงที่ Growth Hormone ทำงาน ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้เป็นฮอร์โมนที่จะช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกาย หรือที่เรียกกันว่า ฮอร์โมนหนุ่มสาว เวลาที่ฮอร์โมนชนิดนี้หลั่ง คือช่วงเวลาตั้งแต่ 4 ทุ่ม จนถึงตี 5 และจะหลั่งออกมาดีที่สุด คือ ช่วงเวลาเที่ยงคืนจนถึงตอนตี 1 ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่หลับลึกที่สุด ดังนั้นจึงควรนอนก่อนตี 1 เพื่อให้เราได้รับ Growth Hormone อย่างเต็มที่ ฉะนั้นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและนอนเวลาที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้ทั้งร่างกายและผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีออร่า ใบหน้ากระจ่างใส สดชื่น ดูอ่อนกว่าวัยด้วยค่ะ
นอกจากวิธีการที่นำเสนอมานี้แล้ว การไปทำทรีตเม้นต์ที่คลินิกหรือสถานเสริมความงามก็ช่วยเรื่องลดความหมองคล้ำของใบหน้าได้ค่ะ เช่น โปรแกรมทรีตเม้นต์ Cryo Bright ที่ Apex เป็นทรีตเม้นท์ที่ช่วยปรนนิบัติผิวสวย ด้วยการเติมสารอาหารบำรุงต่าง ๆ ทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นในการฟื้นฟูสภาพผิว สามารถส่งผ่านสารอาหารลงไปใต้ชั้นผิวได้ลึกกว่าการนวดหน้า หรือการทาครีมบำรุงผิวทั่วไป โดยใช้แสงเป็นตัวบำบัดผิว ซึ่งแสงแต่ละสีจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันและช่วยรักษาปัญหาของผิวแตกต่างกันไป โดยแสงแต่ละสีที่ใช้ปรนนิบัติผิว ได้แก่ Blue Light (แสงสีฟ้า) ช่วยยับยั้งปัจจัยการเกิดสิวและป้องกันการติดเชื้อใหม่, Yellow Light (แสงสีเหลือง) ช่วยกระตุ้นระบบน้ำเหลือง รวมถึงระบบการไหลเวียนโลหิต ลดการอักเสบ และบวมแดงของผิวหลังทำเลเซอร์, Red Light (แสงสีแดง) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน รักษาผิวที่ถูกเผาไหม้จากแสงแดด และลดเรือนริ้วรอย
คราวนี้สาว ๆ ก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่องความหมองคล้ำบนใบหน้าจนใคร ๆ ทักแล้วนะคะ จะสวยหน้าสดแค่ไหนก็ได้แล้วค่ะ แต่วิธีการที่บอกนี้หนุ่ม ๆ ก็สามารถนำไปใช้ได้นะคะ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ค่ะ
28 สิงหาคม 2561
ผู้ชม 497 ครั้ง